วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ความแตกต่างของจอ CRT LCD LED OLED


ความแตกต่างของจอ CRT กับจอ LCD


         

         จอ CRT สามารถเลือกแสดงผลได้หลายความละเอียด แต่จอ LCD มีข้อจำกัดคือสามารถแสดงผลได้ด้วยความละเอียดเพียงค่าเดียวเท่านั้น จอ CRT ขนาดจะใหญ่กว่าเพราะประกอบขึ้นด้วยวงจรไฟฟ้า มีการแผ่กระจายคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากหน้าจอค่อนข้างสูง จึงเป็นอันตรายต่อผู้ใช้งาน ส่วนจอ LCD ประกอบขึ้นด้วยสารโปร่งแสงกึ่งแข็งกึ่งเหลว จอจึงบางและเบาทำให้ประหยัดพื้นที่การใช้งาน และอัตราการแผ่รังสีต่ำช่วยถนอมสายตาได้ดีกว่า มาตรฐานการวัดขนาดหน้าจอจะแตกต่างกัน โดยจอ LCD วัดขนาดตามแนวเส้นทแยงมุมได้โดยตรง แต่จอ CRTจะมีส่วนโค้งของจอภาพ ทำให้พื้นที่การมองไม่ตรงกับขนาดที่วัดได้ จอ LCD จึงมีขนาดพื้นที่การมองของหน้าจอเท่ากับจอ CRT ที่มีขนาดใหญ่กว่า 2-3 นิ้ว และภาพที่ได้จะไม่เสียรูปทรง LCD มีปัญหาในเรื่องมุมในการมองหน้าจอ จะมีมุมในการมองเห็นที่แคบกว่า เพราะใช้เทคโนโลยีในการแสดงผลแบบกระจายแสงหรือส่งผ่านแสง โดยการผสมแสงที่ฉายผ่านหน้าจอ เมื่อแสงถูกส่งผ่านไปยังเซลล์ที่ต้องการแล้ว แสงที่อยู่ในเซลล์ข้างเคียงก็จะถูกลดทอนลง ส่วนจอ CRT เป็นการปล่อยแสง โดยมีอุปกรณ์ปล่อยแสงทางด้านหน้าของจอภาพ ทำให้สามารถมองเห็นหน้าจอได้จากมุมมองที่กว้างกว่า CRT ใช้ปืนอิเล็กตรอน ตัวยิงลำอิเล็กตรอนมารวมกัน ณ จุดๆ หนึ่ง เพื่อสร้างภาพที่คมชัด ซึ่งอาจเกิดการเบี่ยงเบนไม่มาชนกัน แต่จอ LCD ใช้การสร้างภาพจากการเปิด-ปิดเซลล์แต่ละเซลล์แยกกันโดยอิสระ ทำให้ภาพที่ปรากฏบนจอมีความคมชัด แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ควรตรวจสอบเซลล์เหล่านั้นด้วยว่าแต่ละเซลล์ทำงานหรือเปล่า ความสามารถพิเศษของจอ LCD ที่หาไม่ได้จากจอ CRT ก็คือ การหมุนแสดงผลในแนวตั้ง ซึ่งจะทำให้สามารถแสดงหน้าเอกสารต่างๆ หรือหน้าเว็บไซต์ทั้งหน้าได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องคลิกปุ่มเลื่อนขึ้นลงแต่อย่างใด แต่คุณสมบัตินี้จะมีเฉพาะจอบางรุ่นเท่านั้น LCD มีอุปกรณ์อื่นที่จอ CRT ไม่มี เช่น หลอดฟลูออเรสเซนต์ที่อยู่ด้านหลังของจอภาพ ช่วยทำให้หน้าจอสว่าง แต่ในบางครั้งก็ทำให้เห็นเป็นเส้นสว่างโดดเด่นกว่าบริเวณอื่น และทำให้เห็นเป็นภาพเงาดำหรือภาพหลอน และในกรณีของการแสดงผลที่มีการสั่นหรือเคลื่อนไหวอย่างเร็ว ก็อาจส่งผลให้เกิดเป็นลายทางหรือคลื่นบนหน้าจอได้


               
ช่องต่อแบบ D-Sub 15pin และแบบ DVI
ที่อยู่บนกราฟิกการ์ด


ที่จอภาพที่มีช่อต่อทั้งแบบ D-Sub 15pinและแบบ DVI
จึงสามารถที่จะใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ


ความแตกต่างของจอ LED กับจอ OLED
         จอ LED (แบบทั่วๆไป)ก็คือจอ LCD ชนิดหนึ่งที่เปลี่ยนหลอดไฟ Backlight จากฟลูออเรสเซนต์มาเป็นหลอด LED แทน ซึ่งในมือถือก็มีใช้กันมานานแล้ว แต่เพิ่งมีการนำไปใช้กับจอขนาดใหญ่
ส่วนจอ OLED, AMOLED จะเป็นจอที่แต่ละ Pixel เปล่งแสงได้ด้วยตัวมันเอง โดยไม่ต้องพึ่งแสงไฟจากBacklight เมื่อแสดงภาพที่เป็นสีดำ จะสามารถแสดงสีดำได้มืดกว่าจอ LCD เพราะว่ามันสามารถเปิดปิดแสงไฟได้อย่างอิสระ และช่วยทำให้ประหยัดไฟได้มาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น